Travel Abroad

เที่ยวจีนครั้งแรกจีน อีกหนึ่งประเทศที่เราเคยประกาศกร้าวกับตัวเองว่าจะไม่ไปเด็ดขาด

จีน อีกหนึ่งประเทศที่เราเคยประกาศกร้าวกับตัวเองว่าจะไม่ไปเด็ดขาด ด้วยประสบการณ์ทัวร์จีนที่เคยเจอในไทย แต่ก็นะ วันที่เราเลื่อนเฟสบุ๊คไปเจอ VDO พาไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ แล้วเฮ้ย ทำไมดีจัง! จุดเริ่มต้นของวันนั้นทำให้เราต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเอง จองตั๋ว แล้วไปจีนกันเลย 55555

ก่อนอ่านรีวิวนี้เราอยากให้เพื่อนๆลองเปิดใจ เอาอคติทั้งหมดวางไว้ก่อนแล้วเสพบรรยากาศ สถานที่ ความง่ายในทุกสิ่ง ไปพร้อมๆกับเรา ก่อนเดินทางไปเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้เราทำการบ้านหนักมาก เพราะพูดภาษาจีนไม่ได้เลยแล้วคนจีนส่วนใหญ่ก็ไม่พูดภาษาอังกฤษด้วยนะ แต่ตอนไปถึงจริงๆ มันไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็แค่ใช้ Google Translate เป็นภาษาจีนให้เค้าอ่านเอง

การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆทั้งหมดใช้ Metro Shanghai หรือรถไฟฟ้าใต้ดินแบบบ้านเรา แต่ที่นี่ครอบคลุมทุกเส้นทางทั่วเมือง สะดวกสบาย ราคาเริ่มต้นอยูที่ 3 หยวน คิดเป็นเงินไทย 15 บาท ถูกมาก ไม่ต้องนั่งแท็กซี่ให้ปวดหัว บ้านเมืองสะอาด ตึกสวย เอาจริงตึกบางโซนคิดว่ามาเที่ยวแถบยุโรป

มุมถ่ายรูปชิคๆ เก๋ๆ เต็มเมืองไปหมด ตลอดทริปไม่เจอคนจีนแซงคิวเลย เวลาที่เข้าไปถามหรือขอความช่วยเหลือ พี่จีนก็ช่วยเต็มที่ นี่ประทับใจนะ มันลบภาพจีนในหัวเก่าๆเราออกไปได้หมดเลย

ทริคเล็กๆมาฝากสำหรับคนที่มีแพลนไปเซี่ยงไฮ้

1. เราเดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ บินตรงดอนเมือง-เซี่ยงไฮ้ทุกวัน (เครื่องบินลำใหญ่ สะดวกสบาย) เลือกแพ็กสุดคุ้มที่ต้องกดซื้อตอนจองตั๋วเท่านั้น มีน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม อาหารร้อนบนเครื่อง เลือกที่นั่งได้ตามใจเราและความคุ้มครองการเดินทาง ในราคาประหยัดสูงสุดถึง 20% ใช้เวลา 4 ชม.บินตรงลงสนามบิน Pudong International Airport

3. ใช้สกุลเงินหยวน CNY หรือ ¥ (1¥ : 5 บาท) *ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนขณะนั้น

4. เวลาเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง

5. ไปจีนต้องขอวีซ่าล่วงหน้า ใช้เวลา 3-4 วัน ในการทำ ราคา 1,650 บาท ไม่ยากเลย

6. ถ้าซื้อซิมหรือต่อ Wifi ที่จีน จะโดนบล็อกทั้ง Facebook / Instagram/ Line แต่ถ้าอยากเล่นต้องโหลดโปรแกรม VPN

เอาง่ายซื้อซิมแล้วเปิด Roaming จากไทยไปเลยดีกว่าสามารถเล่นได้ทุกอย่าง เราซื้อ Sim2fly AIS 399

7. เที่ยวเซี่ยงไฮ้ให้แพลนสถานที่ที่จะไปดีๆ เพราะหลายๆที่อยู่สถานีเดียวกัน จะได้ไม่ได้นั่งรถใต้ดินอ้อมโลกเนอะ

8. App ที่ควรมีไว้ติดเครื่องก่อนไปคือ Google Translate / DiDi (เรียก Taxi) คล้ายๆ / Shanghai Metro App(ดูสายรถไฟฟ้า)

9. ในเมืองเซี่ยงไฮ้แนะนำให้ใช้ Apple map จะแม่นยำกว่า Google map

10. เตรียมรองเท้าผ้าใบติดไปด้วยซักคู่ เพราะเมืองเซี่ยงไฮ้กว้างมาก ยิ่งเดินยิ่งว้าวจริงๆนะ

พร้อมแล้วตามเรามาเที่ยวเซี่ยงไฮ้กันเลย

มาเปิดที่แรกด้วย Yuyuan Old Street 豫园 เป็นถนนคนเดินที่ถ่ายรูปสวยเปิดตลอดทั้งวันยันเย็น อาคารต่างๆถูกออกแบบให้ดึงจุดเด่นของสมัยโบราณออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันยาวๆตลอดทั้งเส้น ด้านในมีทั้งร้านอาหาร สตรีทฟู้ด หรือแม้กระทั่งของฝากต่างๆ

เดินถัดเข้ามาด้านในจะมีบึงน้ำ และอาคารต่างๆรายรอบ ณ จุดนี้ ถ่ายรูปรัวๆไปเลยจ้า

วิธีการเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 10 ลง Yuyuan ออกประตู 1 เดินไปอีกนิดก็จะถึงถนนคนเดิน

ที่นี่เปิดตั้งแต่ 8:30 – 17:30 น. แต่ช่วงเย็นคนจะเยอะหน่อย เพราะอากาศดี เดินหาอะไรกินเล่นคือสุด

มาต่อกันที่ย่านซินเทียนตี้ Xintiandi เรียกว่าเป็นแหล่งรวมวัยรุ่น ชาวต่างชาติ บลาๆ ไว้ที่นี่ ถ้าเมืองไทยก็ประมาณแถวสยามแหละ มีทั้งร้านคาเฟ่เจ๋งๆ ร้านอาหาร นั่งชิล คอมมูนิตี้ จุดนี้ที่เราถ่ายถ้ามาช่วงหน้าหนาวต้นไม้ผลัดใบ มีแค่ลำต้นสีน้ำตาลจะสวยมากๆ เปิดดูใน IG มาละ

ด้านในก็จะเป็นร้านอาหาร ร้านนั่งดื่ม ในนี้มีร้าน Greyhound ของไทยอยู่ด้วยนะ

มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก โดยเฉพาะตามกำแพง ตามซอกต่างๆ แนะนำว่าถ้ามาที่นี่ลองเดินสำรวจดูรอบๆ เพราะจะมีพวกร้านอาหาร ร้านคาเฟ่ หลบมุมอยู่เยอะ

แล้วหลังจากที่เราเดินเลือกอยู่ซักพักก็มาจบที่ร้านนี้ เป็นร้านขายไอศกรีม กาแฟ ร้าน Pree ตัวร้านน่ารักดี ตกแต่งแบบทันสมัย เปิดแอร์เย็นฉ่ำ

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสาย 6 ลงสถานี Xintiandi เดินทะลุห้างมาโผล่อีกด้าน

ใครชอบช้อปปิ้ง ห้ามพลาดที่นี่ Nanjing Road แหล่งรวมร้านดัง แบรนด์เนม ตรงนี้ตอนกลางคืนจะเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินซึ่งยาวมากๆ เดินกันจนปวดขาไปเลย

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสาย 2 ลงสถานี West Nanjing Road หรือลง People’s Square ก็ได้

เราชอบการข้ามถนนของที่นี่ จะมีไฟอยู่ตรงพื้นถนน ไฟสีแดง ห้ามข้าม แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวข้ามได้ ดูสนุกดี

สายสตรีทต้องชอบที่นี่มากๆ ถ่ายมุมไหนก็สวย ด้วยความอลังการของบรรดาตึกต่างๆ ที่ดูแปลกตา ชวนให้เรามองแบบละสายตาไม่ได้

จากถนนคนเดิน Nanjing Road เป็นทางเชื่อมไปสู่ The Bund สถานที่ยอดฮิต ถ้าไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงเซี่ยงไฮ้นะคะ

เดินเรื่อยๆมาจนถึง The Bund คือแนวริมแม่น้ำหวงผู่ ที่ตึกสวยและใหญ่มากคุณ เรียงรายยาวเป็นกิโล เค้าว่ากันว่ามันเหมือนยุโรป ถ้าไม่อยากเดินเยอะเราสามารถนั่งรถไฟฟ้าสาย 2 มาลงสถานี East Nanjing จะใกล้สุด

การชมเมืองจะง่ายกว่านั้นถ้าเราซื้อบัตรรถชมเมือง จะเป็นรถบัสสีแดง 2 ชั้น ด้านล่างเป็นห้องแอร์ ด้านบนเปิดโล่ง เราสามารถเห็นรถคันนี้ได้ทุกมุม

มาถึงไฮไลท์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ คือช่วงหลัง 6 โมงเย็น ทุกคนมุ่งหน้าสู่โซนริมน้ำ รอชมการเปิดไฟของบรรดาตึกต่างๆ ทั้งจากฝั่งเมืองใหม่ และทางฝั่งนี้ที่เราอยู่

นี่คือฝั่งเมืองใหม่ เป็นที่ตั้งของหอไข่มุกและเซี่ยงไฮ้ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นตึกที่สูงสุดของเมืองนี้

เปิดไฟแล้วววววว สวยมาก เห็นตึกด้านหลังไหม เค้าจะมีการเล่นไฟด้วยนะ แบบแต่ละตึกเปิดไฟสลับกันไปมา โอ้ย รักเลย โรแมนติกสุดๆ

หลังจากพักผ่อนเต็มที่วันนี้เราจะพาไปตะลุย SHANGHAI DISNEYLAND เราพลาดมากที่ไม่ได้จองมาล่วงหน้า มาซื้อเอาหน้าทางเข้า ราคาคนละ 2,8xx บาท ซึ่งแพงกว่าจองมาประมาณ 400 บาท

ไปลุยกันเลย ให้เวลากับที่นี่ 1 วันเต็มๆ อ่อ อย่าลืมโหลด App Shanghai Disneyland เอาไว้ดูแผนที่ กดจองเครื่องเล่น และดูรอบการแสดงต่างๆ ละ

โดมสีขาวนี่สำหรับนั่งพัก ด้านในติดแอร์เย็นฉ่ำ

เครื่องเล่นในนี้น่าสนใจหลายอย่าง หลักๆ แบ่งเป็นทั้งหมด 7 โซน

Tomorrowland / Fantasy Land / Treasure Cove / Adventure Isle / Garden of Imagination / Mickey Avenue / Disney Town

ถ้าอยากเล่นอันไหน เมื่อซื้อบัตรได้ปุ๊ป ทำการสแกนตั๋วเราเข้าไปเลยใน App แล้วเข้าไปกดรับ Fast Pass เจ้าเครื่องเล่นได้เลยไม่ต้องเดินไปกดเอง สบายๆ ลืมบอกว่าเราหากเรากด Fast Pass ไปแล้วต้องรออีก 2 ชม. ถึงจะกดเครื่องใหม่ได้

นี่คือ Tron เครื่องเล่นที่ฮิตที่สุดของที่นี่แล้วละ เป็นเครื่องเล่นรถไฟเหาะแบบขี่มอเตอร์ไซต์ คนต่อแถวเยอะมาก

มาถึงนี่ ถ้าไม่ถ่ายคู่ปราสาทยักษ์คงไม่ได้สินะ

สิ่งที่อยู่คู่กันของสวนสนุก Disneyland ก็คือขบวนพาเหรด จะมี 2 รอบต่อ 1 วัน ขนมากันหมดทั้ง Disney เลยจ้า ทั้ง Mickey Mouse / Toy Story / Elsa / Mulan และอื่นๆอีกเยอะมาก มันตื่นเต้นเพราะเสียงเพลงของแต่ละตัวการ์ตูนนี่แหละ

ด้านในมีร้านขายพร๊อบ ของสะสม Disney เยอะมาก

มาที่นี่อยากให้อยู่จนถึงช่วงค่ำ เพราะจะมีการแสดงพลุ ตรงบริเวณหน้าปราสาท

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสาย 11 ลงสถานี Shanghai Disneyland Resort

วันสุดท้ายในเซี่ยงไฮ้ขอตะเวนหาของกิน มาเริ่มกันที่ร้าน Starbucks Reserve Roastery Shanghai ซึ่งเคยเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ตอนนี้โดนญี่ปุ่นแย่งไปแล้ว

ด้านในดูคล้ายโรงคั่วกาแฟขนาดใหญ่ หอมกลิ่นกาแฟไปทั้งร้าน มี 2 ชั้นให้เราเลือกนั่ง จะมีพนักงานคอยเดินจดออเดอร์ เรื่องราคาโหดกว่าตามร้านทั่วไป แต่มีเมนูแปลกๆ ดีๆให้เลือกเยอะกว่า

วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าลงสถานีสาย 2 ลงสถานี MRT East Nanjing Road (Exit 3)