เที่ยวเวียดนามเหนือด้วยงบหลักพัน เยือนซาปาดินแดนแห่งหุบเขาและสายหมอก

ซาปา เมืองในสายหมอกของเวียดนามที่ต้องไปซักครั้งในชีวิต เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นสวิตแห่งเอเชีย เป็นยุโรปในงบที่เอื้อมถึง สภาพอากาศค่อนข้างหนาวเย็นตลอดทั้งปี มีฝนตกชุก แต่ถ้าปีไหนโชคดีก็จะมีหิมะตกให้เห็นกันเชียวละ

การเดินทางมาซาปามีด้วยกัน 2 วิธี จากเมืองฮานอย

1. รถบัสนอน เราเลือกวิธีนี้เพราะความประหยัดและสะดวก ขึ้นรถได้ในเมืองเลย มีรถของเอกชนให้เลือกอยู่หลายเจ้า

2. รถไฟ หลายคนชอบวิธีนี้เพราะรถไฟสวยอารมณ์รถไฟในเรื่องแฮรี่พอตเตอร์งี้

การเดินทางในตัวเมืองซาปา

1.เรียกแท็กซี่สามารถโบกได้ทั่วไปหรือเรียกผ่าน App

2.เช่ามอไซต์ขับ อันนี้สะดวกสุด เพราะแต่ละที่ไม่ไกลกันมาก

---

สำหรับรีวิวนี้เราอยากจะไกด์พิกัดห้ามพลาดเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนเมืองซาปา

มาเริ่มสถานที่แรก เราจะพาทุกคนนั่งรถรางผ่านหุบเขา เพื่อไปต่อกระเช้าขึ้นยอดเขา Fansipan (ฟานซิปันกัน) ยอดเขาที่สูงสุดในเวียดนามและได้ฉายาว่าเป็นหลังคาแห่งอินโดจีน

ซึ่งตัวรถไฟก็จะมีความคลาสสิกหน่อยๆ สีแดงสวยงาม  นั่งชมวิวไปประมาณ 2 กม. เพลินๆ

แค่อึดใจเดียวรถไฟก็แล่นเข้ามาจอดยังสถานีปลายทางเพื่อให้เราไปต่อกระเช้า

สำหรับการซื้อตั๋ว สามารถซื้อได้ที่ตึก Sun Plaza จำหน่ายแบบวันต่อวันเพราะเค้าต้องรอดูสภาพอากาศว่ากระเช้าสามารถขึ้นได้ไหม ราคาขึ้นรถไฟ+กระเช้าไปกลับอยู่ที่ 940 บาท/คน

เราต้องต่อตัวกระเช้าสามสายขึ้นสู่ยอดเขาฟานซิปันยิ่งสูงยิ่งหนาวของจริง แต่ก็ยิ่งสวยด้วยเช่นกัน

ตอนที่มันเริ่มไต่ระดับใจนึงก็แอบหวั่นใจนึงก็แอบว้าว งงไปหมด 555

ผ่าม! หมอกหนามากวะแก มองไม่เห็นอะไรเลย แทบร้องไห้ 555

แล้วอากาศด้านบนคือ 2 องศา มือสั่นแล้วสั่นอีกหยิบกล้องออกมาแต่ละที ก็เปียกไปหมด

เราเคยเห็นคนอื่นรีวิวถ้าช่วงหมอกบางๆจะสวยมาก เพราะที่นี่อยู่สูงกว่า 3,143 เมตร (10,312 ฟุต) แหนะ

ไหนๆก็ขึ้นมาแล้วขอเก็บบันทึกหน่อยครั้งนึงเราเคยขึ้นมาสะบัดกระโปรงบนยอดเขาฟานซิปันแล้วนะเว้ย

**จำได้ว่ารีบถอดเสื้อโค้ทแล้วถ่ายรูป ถ่ายเสร็จก็คือคว้ากลับมาใส่อย่างไว 555

ถ้ามีโอกาสอยากกลับไปที่นี่อีกครั้ง เอาจริงวิวด้านล่างมันสวยนะ เพราะที่นี่อยู่สูงจากพื้นดินมากๆเลย

กลับลงมาที่ด้านล่างหน้าตึก Sun Plaza **ซื้อตั๋วที่นี่แหละ
แถวนี้มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารตั้งอยู่เยอะ

ช่วงที่เราไปคือหมอกลงทั้งวัน ก็สวยไปอีกแบบนะ

ถัดมาไม่ไกลจากจุดเดิมจะถึงคาเฟ่ Viet Trekking Home Sapa คาเฟ่ยืน 1 ในใจ นั่งจิบกาแฟไปมองรถไฟแล่นทะลุหมอกไปด้วย

จะมีรถไฟแล่นผ่านให้ชมเกือบๆจะทุก 15 นาที ชอบมาก นั่งได้ทั้งวันเลย กาแฟอร่อย วิวดี ถูกใจ

จริงๆที่นี่มีโซนที่พักด้วยนะ ใครอยากมาพักก็ลองเข้าไปดูรูปในเพจเค้าได้

ตามมาติดๆคาเฟ่ลับกลางป่าสน Coong Coffee homestay เงียบสงบ เหมาะกับการมานั่งปลีกวิเวกแล้วดื่มด่ำกับเครื่องดื่มต่างๆ

ตัวร้านนะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซน ด้านในตกแต้งได้น่ารักเต็มไปด้วยของกระจุกกระจิก และโซนด้านนอกวิวป่าสน วันหมอกลงคือขาวโพลนไปทั่วละ แนะนำกาแฟไข่ ต้องลองนะ เป็นกาแฟขึ้นชื่อของชาวเวียดนามรสชาติจะออกมันๆ อร่อยดี

Swing sapa ที่เที่ยวจำลองของยักษ์ต่างๆ ถ่ายรูปมาปังอยู่น๊า

ทั้งมือยักษ์ รูปปั้นยักษ์ ถ่ายรูปเล่นได้เพลินๆ

จากจุดนี้มองเห็นยอดเขาฟานซิปันที่เรานั่งกระเช้าขึ้นไปมาแบบชัดเจนเออสูงจริง 555

ได้เวลามาถึงที่พักที่เราภูมิใจนำเสนอมาก ราคา 800 บาท แต่วิวสุดมาก ชื่อว่า Secret garden homestay

เราเลือกที่นี่เพราะวิวของสระว่ายน้ำนี่ละ สวยแบบตายไปเลย

ราคาห้องหลักร้อย วิวหลักล้าน ถ้าเพื่อนๆสนใจวิธีการจองคือทัก inbox ของเพจที่พัก Secret garden homestay

เขาพิมพ์ภาษาไทยได้ พักที่นี่สามารถให้เค้าติดต่อรถเช่าให้ด้วยก็ได้นะ ครบมาก

จริงๆเค้าเปิดเป็นที่เที่ยวด้วยนะ มีชุดและพร็อบให้เช่าอย่างชุดนี้เราก็เช่าของทางโฮมสเตย์นี่แหละ

แนะนำอีกที่สำหรับที่พัก Hotel de la coupole เป็นโรงแรม 5 ดาว ที่สามารถมองเห็นซาปาได้ทั้งเมือง คอนเส็ปเหมือนหลุดเข้าไปในเทพนิยาย

ต้องยอมรับว่าราคาค่อนข้างสูง แต่ก็สวยจริงๆแหละไม่เถียง

จริงๆถ้าใครไม่พักสามารถเข้ามาทานข้าวจิบกาแฟถ่ายรูปได้เหมือนกันนะ

ข้างในก็คือดีเทลสุดๆ สวยทุกมุมครั้งหน้าถ้ามีโอกาสก็คืออยากมาพักนะ สัญญาว่าจะเตรียมชุดสวยๆมาเยอะๆด้วย 555

นี่คือ Nha Tho Da Sapa อยู่ตรงวงเวียนกลางซาปาฝั่งตรงข้าม Sun Plaza เดินมาถ่ายรูปแถวๆนี้ก็สวยน๊า

เอาละ หลังจากที่เราพาทุกคนเที่ยวซาปามาจนถึงภาพสุดท้ายแล้ว มีใครเริ่มอยากมาสัมผัสที่นี่บ้างหรือยัง ถ้าให้เรานิยามคำว่าซาปาในความคิดตัวเองซักประโยค เราว่ามันคือ “ดินแดนต้องมนต์” ที่ต้องมาเองสักครั้งในชีวิต