ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าหลายนคงคิดถึงอากาศเย็นๆ หิมะตก ดอกซากุระอะไรพวกนี้ใช่ไหม ?
ทริปนี้เราเลยอยากมาเล่าเรื่องผ่านภาพถ่ายของอีกมุมในหน้าร้อน ฤดูที่อากาศกำลังสบายแต่งตัวง่าย แถมคนไม่เยอะ ที่สำคัญคือพวกดอกไม้ต่างๆผลิดอกเบ่งบานกันเต็มไปหมด
รอบนี้เรามาเที่ยวด้วยกัน 2 เมืองคือ เกียวโตและโอซาก้า มาจ้า เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวกันทีละเมือง
ขอเริ่มจากโอซาก้า เมืองแห่งผู้คน ของกิน และแหล่งช้อป กับย่านแห่งแสงสี Dotonbori
ขอเริ่มจากโอซาก้า เมืองแห่งผู้คน ของกิน และแหล่งช้อป กับย่านแห่งแสงสี Dotonbori
มาต่อที่วัด Shitennoji Temple (วัดชิเทนโนจิ) เป็นหนึ่งในวัดที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นมีอายุเกือบ 1,500 ปี ตัววัดจะมีด้วยกัน 2 ชั้น คือโซนด้านนอกกำแพงเป็นลานโล่งๆ จุดนี้สามารถมานั่งพักผ่อน เดินถ่ายรูปได้อยากสบายใจ แต่ถ้าเพื่อนๆอยากเข้าไปโซนด้านในที่มีความเงียบสงบกว่าและเห็นเจดีย์ห้าชั้นได้อย่างชัดเจน ต้องเสียค่าเข้า 300 เยน/คน ใช้ Osaka Amazing Pass เข้าฟรี!
เป็นธรรมเนียมก่อนเข้าวัดและศาลเจ้าที่ญี่ปุ่น เราก็ต้องล้างไม้ล้างมือให้สะอาดซะก่อน
ด้านในคนโล่ง ถ่ายรูปสวย แถมยังสามารถเดินชมความสวยงามได้โดยรอบ
การเดินทาง : เดิน 7 นาทีจากสถานีรถไฟใต้ดิน Shitennojimae ทางออกหมายเลข 4
ไม่ไกลกันมาคือ Kuromon Market (ตลาดคุโรมง) แหล่งรวมของสด ปลาดิบเอย ซูชิเอย ผักผลไม้ก็มีหมด มาที่นี่รับร้องอิ่มจนพุงแตกแน่ๆ
การเดินทาง : Subway ลงสถานี Kintetsu-Nippombashi Station ทางออก 10
พามากินขนมสุดอร่อยที่หนึ่งในใจของทริปนี้กัน ชื่อร้าน grenier 北浜店 เป็นร้านเล็กๆไม่มีที่นั่ง สั่งแล้วออกมายืนทานหน้าร้าน ซึ่งความดีงามคือเค้าอบใหม่ทุกวัน แล้วคนเยอะมาก เข้า-ออก ตลอดเวลา
ตัวขนมเป็นพายกรอบๆ สอดไส้คัสตาร์ดและครีมสด หวานนุ่มกำลังดี ส่วนตัวด้านบนสุดเนี้ย เลือกได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม สตรอเบอร์รี่ เกาลัด เมล่อนและอื่นๆอีกมากมาย ส่วนตัวคือให้คะแนนเต็ม เพราะกินหมดยันคำสุดท้ายจริงๆ
การเดินทาง : เดินต่อ 12 นาทีจากสถานี Yodoyabashi
อีกแลนด์มาร์คของเมืองที่ต้องแวะมาหน่อยคือ Osaka Castle ยิ่งถ้าช่วงซากุระบานนี่คนแน่นเชียวละ แต่พอเรามาหน้าร้อนก็ได้อีกบรรยากาศ ต้นไม้ใบหญ้า เขียวชอุ่ม แล้วคนไม่เยอะด้วยนะ นี่มาถึงตอนจะ 5 โมงเย็น อากาศดีเชียว
รอบๆตัวปราสาทถูกโอบล้อมไปด้วยสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่ผู้คนมักมานั่งปิกนิก ทำกิจกรรม มีร้านค้ามาตั้งขายของให้เดินช้อปกันในบางวันอีกด้วย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สาย JR Osaka Loop Line ลงสถานี Osakajokoen
neel中崎町 ร้านคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นโบราณ 2 ชั้น ด้านล่างเป็นปูนด้านบนเป็นไม้เก่า ตกแต่งได้น่ารักดีนะ
มีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มให้สั่งมาทาน ทางเราก็นั่งกินวนไปรอฝนหยุดละ
โดยรวมคือเครื่องดื่มรสชาติดี แต่ที่ถูกปากเห็นจะเป็นเมนูขึ้นชื่อที่สั่งมาแทบทุกโต๊ะ คือเจ้าแผ่นเครปบางกรอบท้อปด้วยเนยหวานก้อนเล็กๆ เอ้อชอบนะ
การเดินทาง : เดินต่อจากสถานี Osaka 13 นาที
ข้ามเมืองมาต่อที่เกียวโต จากสถานี Osaka นั่ง JR สาย Tokaido-Sanyo มาลงสถานี Kyoto (30 นาที) ง่ายมาก
หลังจากเก็บกระเป๋าเข้าที่พัก ต้องมาชิลที่นี่เลย ริมแม่น้ำคาโมะ เราเคยมาหน้าหนาวมาชิลแล้ว หน้าร้อนนี่คนเยอะกว่ามากคุณ แถมบรรยาร้านอาหารยังพากันต่อชานด้านนอกให้แขกมานั่งทานกันเยอะมากๆ
วาปเข้ามาในตรอก Pontocho Alley (พรอนโตโชว) ซักหน่อย คนยังเยอะเช่นเคย ได้ความเป็นญี่ปู๊นญี่ปุ่นขนานแท้
ก่อนจะออกไปเที่ยวหนักๆขอแวะเติมพลังกับร้านคาเฟ่สีขาว Walden Woods Kyoto นี่ซะก่อน เราชอบคอนเส็ปร้านมาก สั่งเมนูด้านล่างแล้วขึ้นไปนั่งทานด้านบน ซึ่งจะจัดเป็นครึ่งสี่เหลี่ยมหันหน้าชนกัน เสมือนเข้าแคมป์ แล้วมีโคมไฟวางรอบๆพร้อมหน้าต่างบานเล็กๆให้นั่งมองวิวด้านนอก วันที่เราไปฝนตกพอดี เท๊อออ! มันดี มันน่านอน มันที่สุดอะ 555
แล้วทุกอย่างในร้านก้คือเน้นสีขาวหมดเลย
เมนูที่เราสั่งคือไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟชาเขียว-วนิลา และลาเต้เย็นๆ ใครอยากทานพวกขนมก็มีนะ
พิกัด : https://goo.gl/maps/WND579b9ovJo2mfw5
อีกวันเรามีแพลนไปเที่ยวเมือง Uji ซึ่งเป็นเมืองชาเขียวแสนน่ารักทางตอนใต้ของเกียวโต
ใช้นั่ง JR จากสถานี Kyoto มาลงสถานี Uji ประมาณ 30 นาทีก็ถึงแล้ว
จากหน้าสถานีเดินต่อเข้าไปเรื่อยๆจะเจอถนน Byodoin Omotesando เต็มไปดดวยร้านค้า คาเฟ่ ร้านของฝากที่เกี่ยวกับชาเขียวซะส่วนใหญ่ ขนาดราเมงยังเป็นเส้นชาเขียวเลยคุณ
เราแวะคาเฟ่ร้านแรกชื่อว่า Nakamura Tokichi, Byodoin 中村藤吉平等院店 ตั้งหันหน้าออกรับวิวแม่น้ำ มี 2 ชั้นให้เลือกนั่ง
บอกแล้วว่าที่นี่มันสารพัดชาเขียวจริงๆ ใน 1 วันนี้เรากินชาเขียวไปเยอะมาก 555
ด้านนอกสามารถออกมารับลมจากแม่น้ำได้เลย มองเห็นบ้านเรือนโบราณฝั่งตรงข้ามอีกด้วย
พิกัด : https://goo.gl/maps/Dt3c3ZukYfW513Fq5
เดินต่อไปจาสุดทางจะเจอกับ Byodoin Temple วัดเบียวโดอิน ซึ่งเป็นวัดที่ได้รับคัดเลือกจากยูเนสโกให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกสร้างขึ้นราวๆ 1,000 ปีมาแล้วและเป็นวัดที่อยู่บนเหรียญ 10 yen ของญี่ปุ่นนั่นเอง
เราเตรียมเหรียญมาเทียบแบบชัดมาเหมือนแค่ไหน
รอบๆวิหารสีแดงจะถูกล้อมไปด้วยบึงน้ำใสที่มีเจ้าปลาคาร์ปตัวใหญ่ๆอยู่ ทำให้มองเห็นเหมือนว่าวิหารกำลังลอยน้ำอยู่นั่นเอง
ถัดจากที่เดิมเราเรียกแท็กซี่มุ่งตรงมาที่ วัดมิมูโระโทจิ (Mimurotoji Temple) หรือที่หลายๆคนจะรู้จักกันในชื่อ “วัดดอกไม้” ซึ่งช่วงนี้ดอกไฮเดรนเยียกำลังบานเลย
ตอนเข้ามาถึงนี่โอ้โหให้กับความสวยไปหลายรอบมาก ดอกไฮเดรนเยียบานเต็มสวนด้านล่างวัด มีลำธารเล็กไหลผ่าน ดีชะมัด
จริงๆวัดนี้มีหลายโซนให้เลือกเดิน ตรงนี่แค่บางส่วน ซึ่งถ้าอยากเดินให้ครบแนะนำให้มาเร็วซักหน่อยเพราะวัดเค้าปิด 5 โมงเย็น เสียดายมาก
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส JR Uji Station (นั่ง Taxi ใช้เวลา 20 นาที ค่าโดยสารประมาณ 1000+ เยน)
ได้เวลามาสรุปทริปกัน การเที่ยวหน้าร้อนเราว่าไม่แย่ ได้คนละบรรยากาศที่สำคัญพวกรร.ต่างๆราคาดีกว่าช่วงหน้าหนาวนะ
การเดินทางบินสะดวก เที่ยวสบาย เดินทางกลางคืน ตื่นเช้าถึง ญี่ปุ่น พร้อมลุยโอซาก้า! ด้วย Vietjet
นั่งสบายๆชิลมี Sky Cafe ไว้สั่งอาหารได้ตลอดไฟลท์
เราบินจาก กทม. – เชียงใหม่ และต่อเครื่องจาก เชียงใหม่ – โอซาก้า เช็ครอบบินได้ที่นี่เลย www.vietjetair.com