เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจังหวัดในลิสต์ที่มาเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ แบบสะกิดเมื่อไหร่ก็มีคิวว่างให้ตลอดรอบนี้เรามีโอกาสได้พัก Boutique hotel 5 ดาวใกล้ตัวเมือง อย่าง Veranda High Resort Chiang Mai – Mgallery บอกเลยว่าชอบมาก
ที่นี่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ซ้ำใครทั้งสไตล์การตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างความเป็นล้านนาดั้งเดิมและโมเดิร์นแบบปัจุบันได้อย่างลงตัว อย่างในรูปคือพื้นที่บริเวณซุ้มทางเข้าที่เชื่อมต่อไปยังล็อบบี้ของทางโรงแรม ใช้อิฐและไม้เป็นวัสดุหลักของโซนนี้ กลางวันและค่ำฟีลต่างกันอย่าสิ้นเชิง เพราะทุกๆวันช่วงพระอาทิตย์ตกดินพี่ๆพนักงานจะเดินจุดตะเกียง แสงไฟนวลๆเข้ากับบรรยากาศโดยรอบดูโรแมนติกชะมัด
โดมโค้งๆ จุดนี้คือส่วนของล็อบบี้มีลักษณะเปิดโล่ง มีลมพัดเข้าออกตลอดเวลา เราชอบโคมไฟห้อยเล่นระดับด้านบน ทุกอย่างดูใหญ่ดูแกรนด์ไปหมด มีมุมให้แขกได้นั่งชิลๆ ชมวิวอยู่หลายจุด
มาต่อที่ไฮไลท์สระว่ายน้ำ infinity pool จุดนี้จะอยู่ชั้นเดียวกันกับห้องอาหาร ตัวสระใหญ่ว่ายเล่นสะใจ หรือใครจะขึ้นไปนั่งพักผ่อนชิลๆก็เหมาะมาก ดูจากรูปจะเห็นเลยว่าที่นี่โดนโอบล้อมด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริง ตอนเราไปโชคดีอากาศหนาวพอดิบพอดี จุ่มขาลงไปแทบสะดุ้ง น้ำเย็นสุด
ไม่ได้เล่นน้ำก็สามารถขึ้นมานั่งรับลมยามเย็นได้เหมือนกัน สั่งเครื่องดื่มเย็นๆมาจิบให้พอชื่นใจ รอชมพระอาทิตย์ตกดินที่มุมนี้ก็ปังนะ
จุดนี้มองเห็นยอดเขาและโลหะปราสาทที่พอสะท้อนกับผิวน้ำแล้วปังมาก บางวันที่โชคดีกว่านั้นคือจะมีหมอกขาวๆออกมาให้เห็นใกล้ๆด้วย
เข้ามาเรื่อยๆโซนด้านในสุด ค่อนข้างเงียบและเป็นส่วนตัว
ห้องพักเราจะอยู่ชั้นบนที่มีระเบียงยื่นออกมาชื่อว่า Scenery Pavilion ส่วนชั้นล่างคือห้อง Plunge Pool Pavilion เค้าจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัว
งือ น่าร้ากกกก ห้องกว้างมากใช้โทนสีมูจิหน่อยๆ ทั้งห้องคุมโทนขาวน้ำตาล แถมมีการนำเอาของตกแต่งของชาวล้านนามาใช้อีกต่างหาก
กระจกสามารถเลื่อนเปิด-ปิดได้เกือบทั้งบาน กั้นระหว่างส่วนของห้องนอนและหน้าระเบียง ซึ่งพอเปิดแล้ว
ทำให้รู้สึกได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้นไปอีก
โซฟาเอาใจไปเลย ใหญ่บึ้มนอนดูทีวีได้แบบเหลือๆ
ห้องอาบน้ำถูกแยกโซนออกมาที่ด้านหลังอย่างชัดเจน มีอ่างขนาดใหญ่สำหรับนอนแช่เพลินๆ
ส่วนตัวแล้วชอบการวางผังห้องนะ 3 ส่วนในห้องเดียว
นอนอ่านหลังสือธรรมดากลัวไม่คลู นี่เลยออกมานอนอ่านที่เบาะหน้าระเบียงพร้อมหมอนและผ้าห่ม ฟินมาก อากาศคือดีตลอดทั้งวัน ทางเราสารภาพเลยว่าเคลิ้มหลับไปหลายตื่นเชียว
ว่างๆก็มาเปิดน้ำลงแช่ บอกเลยว่าเราใช้ facility ของห้องนี้ได้คุ้มมาก
ที่นี่เค้ามีเสิร์ฟอุปกรณ์ดริปกาแฟให้สำหรับเหล่าคอกาแฟตัวยงด้วยนะ ช่วงเช้าที่อากาศหนาวๆ ออกมานั่งดริปตรงระเบียงห้องจิบกาแฟร้อนๆ เข้ากันดีมากๆ
อะไปเดินดูส่วนอื่นๆกันต่อ
จุดนี้คือร้านระเบียงชา มองจากมุมนี้เหมือนไม่ได้อยู่ในโรงแรมเลยเนอะ ด้านหน้าเป็นไร่ชา ด้านหลังเป็นภูเขา
เปิดให้บริการตั้งแต่ช่วงบ่ายไปถึงช่วงค่ำ เย็นนี้เราก็มีนัดกันที่นี่แหละ
แสงส่องลงไร่ชากำลังสวย ขอเข้ามาเก็บรูปซักแมทช์
อาหารเย็นจะมีทั้งแบบเลือกสั่งและเซ็ตหมูกระทะ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเราเลือกหมูกระทะแน่ๆ ปิ้งย่างกับอากาศหนาวๆมันต้องคู่กัน
เช้าอีกวัน มีหมอกกรุบกริบเลียบภูเขา
แสงยามเช้านี่ช่าง made my day ซะเหลือเกิน
ทางเราขอออกมาสูดอากาศให้เต็มปอด ก่อนกลับซะหน่อย
ปิดทริป 3 วัน 2 คืน เต็มอิ่มนะ
ที่นี่ทำให้เราอยากตื่นเช้าออกมาสัมผัสอากาศดีๆ
อยากนั่งนิ่งๆมองสิ่งรอบตัวหมุนไปอย่างช้าๆ
และที่นี่ก็ทำให้เราอยากกลับมาอีกครั้ง
กลับมาพร้อมกับคนพิเศษมีช่วงเวลาที่พิเศษๆแบบนี้อีก
เพื่อนๆต้องมาแล้วละ
No Comments